ลองวิธีการแก้ไขต่อไปนี้:

ไม่สามารถตรวจหา Wi-Fi ฮอตสปอตใด ๆ ได้

1. เปิดใช้งาน Wi-Fi ใหม่ และลองอีกครั้ง
2. เปิด การตั้งค่า ค้นหาและเข้าถึง การรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย จากรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณ (หมายเหตุ: การดำเนินการนี้จะลบบันทึกการเชื่อมต่อ Wi-Fi และบลูทูธทั้งหมดของคุณ)
3. หากปัญหายังคงอยู่ ให้สำรองข้อมูลของคุณและนำอุปกรณ์และหลักฐานการซื้อไปยังศูนย์บริการลูกค้า Huawei ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอรับความช่วยเหลือ

ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ฮอตสปอตบางส่วนได้

1. ชื่อฮอตสปอต (SSID) อาจถูกซ่อนไว้ เพิ่มฮอตสปอตด้วยตนเองโดยการกรอก SSID และรหัสผ่านของ Wi-Fi ฮอตสปอต หรือปิดใช้งานฟังก์ชันการซ่อน SSID ของเราเตอร์
2. ปัดนิ้วลงจากแถบสถานะเพื่อเปิดแผงการแจ้งเตือน แตะไอคอน ฮอตสปอต ค้างไว้เพื่อเข้าถึงหน้าจอการตั้งค่าฮอตสปอต แตะ กำหนดค่าฮอตสปอต เลือก แสดงตัวเลือกขั้นสูง (สำหรับโทรศัพท์ที่ใช้ EMUI 10.0 แตะ เพิ่มเติม) และแตะ สายรัดข้อมือ AP เพื่อดูย่านความถี่ที่โทรศัพท์ของคุณรองรับ จากนั้นตรวจสอบว่าย่านความถี่ของ Wi-Fi ฮอตสปอต ที่คุณได้พยายามเชื่อมต่อนั้นสอดคล้องกันหรือไม่ หากโทรศัพท์ของคุณรองรับเฉพาะ Wi-Fi 2.4 GHz ก็จะไม่สามารถตรวจหา Wi-Fi ฮอตสปอต 5 GHz ได้ ในกรณีนี้ ให้ตั้งค่าฮอตสปอตเป็น 2.4 GHz และลองอีกครั้ง ติดต่อผู้ดูแลระบบเราเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือหากจำเป็น

   หมายเหตุ: หากเปิดใช้งานฟีเจอร์การควบคุมย่านความถี่บนเราเตอร์ จะมีเพียง Wi-Fi ฮอตสปอต 5 GHz เท่านั้นที่พร้อมใช้งาน ในกรณีนี้ ให้ปิดใช้งานฟีเจอร์การควบคุมย่านความถี่ ขณะนี้ คุณควรสามารถหาชื่อฮอตสปอตสองประเภทที่แตกต่างเพียงแค่คำต่อท้ายเท่านั้น (เช่น HUAWEI-XXXXXX สำหรับฮอตสปอต 2.4 GHz และ HUAWEI-XXXXXX_5G สำหรับฮอตสปอต 5 GHz) คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งสองตามที่คุณต้องการ

3. หากคุณต้องการเชื่อมต่อกับเราเตอร์ Wi-Fi ฮอตสปอต ให้ตรวจสอบกว่าประเภทการเข้ารหัสได้รับการตั้งค่าเป็น Enhanced Open, WPA3 Personal หรือ WPA3 Enterprise หรือไม่ (บางรุ่นไม่รองรับโหมดการเข้ารหัสก่อนหน้านี้) หากเป็นดังนั้น ให้เปลี่ยนโหมดการเข้ารหัสเราเตอร์เป็น Open/Enhanced Open, WPA2/WPA3 Personal หรือ WPA2/WPA3 Enterprise ดังแสดงในรูปภาพต่อไปนี้
4. หากปัญหายังคงอยู่ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าย่านความถี่และช่องสัญญาณของเราเตอร์ เปลี่ยนช่องสัญญาณของเราเตอร์เป็น 1 6 หรือ 11 สำหรับ Wi-Fi 2.4 GHz และ 149 สำหรับ Wi-Fi 5 GHz จากนั้นค้นหาอีกครั้ง
5. หากปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อโทรศัพท์ของคุณไม่ใช่รุ่นในประเทศ (ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้โทรศัพท์รุ่นในจีนที่ภายนอกจีน หรือใช้โทรศัพท์รุ่นต่างประเทศภายในจีน) ให้เสียบซิมการ์ดในพื้นที่ ลงทะเบียนบนเครือข่ายในพื้นที่ และจากนั้นค้นหา Wi-Fi ฮอตสปอตอีกครั้ง เนื่องจากประเทศ/ภูมิภาคต่าง ๆ ใช้ช่องสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi ที่แตกต่างกัน
6. หากปัญหายังคงอยู่เมื่อใช้แอปของบุคคลที่สามเพื่อค้นหา Wi-Fi ฮอตสปอต ให้ดำเนินการต่อไปนี้:
   • ปัดนิ้วลงจากแถบสถานะเพื่อเปิดแผงการแจ้งเตือน จากนั้นเปิดใช้งาน ตำแหน่ง
   • เปิด การตั้งค่า ค้นหาและเข้าถึง การอนุญาต เลือก การอนุญาต จากนั้นแตะ ตำแหน่ง หรือ เข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง เพื่อตรวจสอบว่าแอปดังกล่าวได้รับการอนุญาตหรือไม่
   • ตรวจสอบว่าโทรศัพท์ของคุณสามารถตรวจหา Wi-Fi ฮอตสปอตได้หรือไม่ หากสามารถหาได้ แสดงว่าปัญหาเกิดขึ้นกับแอปของบุคคลที่สาม ในกรณีนี้ ให้อัปเดตแอปจาก Huawei AppGallery หรือ Google Play Store หรือดาวน์โหลดแอปที่มีฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกัน

หากปัญหายังคงอยู่ ให้สำรองข้อมูลของคุณและนำอุปกรณ์และหลักฐานการซื้อไปยังศูนย์บริการลูกค้า Huawei ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอรับความช่วยเหลือ