มีอาการค้างหรือหน่วงหลังจากการอัปเดตระบบ

ถือเป็นเรื่องปกติหากเกิดอาการหน่วงภายในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากอัปเดตโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ปัญหาอาการค้างหรือหน่วงอันเนื่องมาจากการอัปเดตระบบเกิดขึ้นเนื่องจากระบบทำการปรับปรุงแอปต่าง ๆ หลังการอัปเดต ในกรณีนี้ ปริมาณโหลดของอุปกรณ์จะสูง การปรับปรุงอาจใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดอาการค้างหรือหน่วงหลังจากการอัปเดตระบบ ขอแนะนำให้คุณชาร์จอุปกรณ์โดยที่ปิดหน้าจอไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังจากการอัปเดต ตรวจสอบว่าอาการค้างหรือหน่วงหายไปหลังผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หรือไม่

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับแบตเตอรี่เพียงพอและปิดใช้งาน โหมดประหยัดพลังงาน

หาก โหมดประหยัดพลังงาน เปิดอยู่หรือระดับแบตเตอรี่ต่ำเกินไป อุปกรณ์จะปิดฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณ หากคุณเปิดใช้งาน โหมดประหยัดพลังงาน ขอแนะนำให้คุณไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี ปิดใช้งาน โหมดประหยัดพลังงาน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับแบตเตอรี่สูงกว่า 20%

ปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอเป็น สูง

เมื่อตั้งค่าอัตราการรีเฟรชเป็น อัจฉริยะ หรือ มาตรฐาน อัตราเฟรมจะถูกจำกัดในบางสถานการณ์ ส่งผลให้เกิดอาการเฟรมค้าง ไปที่ การตั้งค่า > การแสดงผลและความสว่าง > อัตราการรีเฟรชหน้าจอ แล้วตั้งค่า อัตราการรีเฟรชหน้าจอ เป็น สูง

สำหรับผลิตภัณฑ์บางรุ่น จะแสดง ความละเอียดหน้าจอ คุณสามารถค้นหา ความละเอียดหน้าจอ เพื่อตั้งค่ารายการได้

หาก อัตราการรีเฟรชหน้าจอ/ความละเอียดหน้าจอ ไม่พร้อมใช้งานบนโทรศัพท์ของคุณ ให้ข้ามขั้นตอนนี้

ล้างอุปกรณ์ของคุณ

หากหน่วยความจำเหลืออยู่น้อยกว่า 20% ของหน่วยความจำทั้งหมด ประสิทธิภาพในการทำงานของโทรศัพท์/แท็บเล็ตของคุณอาจลดลง

1. หากมีแอปทำงานอยู่ในพื้นหลังมากเกินไป หน่วยความจำในการทำงานจะไม่เพียงพอ ส่งผลให้แอปหน่วง ขอแนะนำให้คุณล้างแอปในพื้นหลังเป็นประจำและปิดเครื่องและรีสตาร์ทอุปกรณ์ทุก ๆ สองถึงสามวัน
2. หน่วยความจำไม่เพียงพออาจทำให้ระบบทำงานช้าลงได้ เปิด ตัวจัดการโทรฯ/ตัวจัดการแท็บเล็ต แตะที่ ทำความสะอาด และลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นตามที่ได้รับแจ้งเพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่เก็บข้อมูลเพียงพอ (ขอแนะนำให้คุณสำรองพื้นที่เก็บข้อมูลเอาไว้มากกว่า 20%)
3. แอปจำนวนมากเกินไปจะใช้พื้นที่หน่วยความจำจำนวนมาก ขอแนะนำให้คุณถอนการติดตั้งแอปที่ใช้ไม่บ่อยเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล คุณสามารถแตะไอคอนแอปค้างไว้แล้วเลือก ถอนการติดตั้ง

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่

อุปกรณ์ของคุณมีกลไกป้องกันอาการร้อนจัดที่ป้องกันไม่ให้ร้อนเกินไปโดยการลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบ เพื่อให้อุปกรณ์ของคุณทำงานได้ตามปกติอยู่เสมอ ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานในขณะที่กำลังชาร์จ และลดความสว่างของหน้าจอและปิดใช้งานแอปที่ไม่จำเป็นและใช้พลังงานมาก รวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น บลูทูธและ NFC

หากอุปกรณ์ของคุณร้อนขึ้น ให้ปิดหน้าจอเพื่อลดอุณหภูมิและตรวจสอบว่าอาการค้างหรือหน่วงบรรเทาลงหรือไม่

ตรวจสอบว่าอุณหภูมิของอุปกรณ์ต่ำเกินไปหรือไม่

หากอุณหภูมิของอุปกรณ์ต่ำเกินไป ประสิทธิภาพการทำงานของระบบจะลดลง เนื่องจากแบตเตอรี่ทำงานไม่มากพอ พยายามอย่าใช้อุปกรณ์เมื่ออุณหภูมิของอุปกรณ์ต่ำเกินไป รอจนกว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นและตรวจสอบว่าอาการค้างหรือหน่วงบรรเทาลงหรือไม่

ตรวจสอบแอปของบุคคลที่สาม

1. ถอนการติดตั้งแอปการจัดการของบุคคลที่สามที่ติดตั้งไว้บนอุปกรณ์ของคุณ เนื่องจากมักจะขัดแย้งกันกับ ตัวจัดการโทรฯ/ตัวจัดการแท็บเล็ต ที่อุปกรณ์ของคุณมีให้
2. หากอุปกรณ์ของคุณค้างเมื่อใช้แอปของบุคคลที่สาม โปรดติดต่อแอปหรือโทรไปที่สายด่วนของ Huawei

ล้างการ์ดหน่วยความจำ

สถานการณ์อื่น ๆ

1. อัปเดตระบบ

   ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบและแอปได้รับการอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดทั้งหมดแล้ว เวอร์ชันใหม่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ให้เหมาะสม

   หากต้องการอัปเดตระบบ โปรดไปที่ การตั้งค่า > การอัปเดตซอฟต์แวร์ > ตรวจหาการอัปเดต หรือไปที่ อัปเดต ในแอป My HUAWEI

2. คืนค่าเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน

   สำรองข้อมูลของคุณ และคืนค่าโทรศัพท์/แท็บเล็ตของคุณเป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน

หากยังคงมีปัญหาอยู่

ให้สำรองข้อมูลของคุณ แล้วนำอุปกรณ์และหลักฐานการซื้อของคุณไปยัง ศูนย์บริการลูกค้า Huawei ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอรับความช่วยเหลือ เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการของคุณ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม

โทรศัพท์/แท็บเล็ต HUAWEI ของฉันค้าง ช้า หรือจอยสติ๊กไม่ทำงานระหว่างการเล่นเกม

เคล็ดลับสำหรับ: แอปขัดข้อง หยุดทำงาน หรือไม่ตอบสนองบนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของ Huawei

หน้าจอดำปรากฏขึ้นบนโทรศัพท์/แท็บเล็ต HUAWEI ของฉันบ่อยครั้ง

การแก้ไขปัญหาโทรศัพท์เปิดไม่ติดและติดอยู่ที่หน้าโลโก้บูต

ไม่สามารถล็อกอินเข้าสู่บัญชี Google ของฉันได้